คำพูดสุดท้ายจากสตีฟ จ๊อบ
● ผมประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านธุรกิจ หรืออาจกล่าวว่าชีวิตผมเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของความสำเร็จ
● แต่นอกจากการทำงานแล้ว ผมไม่ได้มีความสุขนัก เพราะในที่สุด ความร่ำรวยก็กลายเป็นสิ่งเดียวที่ผมมี
ในขณะนี้ ผมกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียงและพยามยามรำลึกถึงชีวิตของผมที่ผ่านมา ผมพบว่าความร่ำรวยที่
●ผมเคยภูมิใจ กลับไม่มีค่าอะไรเลยในช่วงสุดท้ายที่ผมกำลังจะตาย
●ในความมืด ผมมองเห็นเพียงแสงสีเขียวและเสียงของเครื่องช่วยหายใจ
ซึ่งทำให้ผมรู้ว่าความตายใกล้เข้ามาแล้ว
●ตอนนี้ผมเพิ่งตระหนักว่า เมื่อเราร่ำรวยพอแล้ว เราควรหันไปใส่ใจกับเรื่องอื่นๆ บ้าง
ซึ่งอาจเป็นสิ่งอื่นๆที่สำคัญ เช่น งานศิลป ที่เราเคยใฝ่ฝันในตอนเด็กๆ
●การไม่ยอมหยุดสร้างความร่ำรวย จะทำให้ต้องมีชีวิตเหมือนที่ผมเป็น
●พระเจ้าได้มอบความรักไว้ในหัวใจของมนุษย์ทุกคน ซึ่งไม่สามารถซื้อหาได้ด้วยเงิน
●เมื่อผมตาย ผมเอาความร่ำรวยไปด้วยไม่ได้ สิ่งที่ผมจะนำติดตัวไปคือความทรงจำเกี่ยวกับความรักเท่านั้น ซึ่งเป็นความร่ำรวยที่แท้จริงและจะเป็นแสงนำทางให้กับเราต่อไป
●ความรักจะติดตามเราไปได้ทุกที่ เพราะมันอยู่ในหัวใจและในมือของเราเอง
● เตียงที่แพงที่สุดในโลกก็คือเตียงผู้ป่วย
●คุณสามารถจ้างคนมาขับรถให้ มาทำงานหาเงินให้ แต่ไม่มีใครมาป่วยแทนคุณได้
●สิ่งของใดๆ ที่หายไป เราอาจหาพบได้ แต่เราเอาชีวิตที่เสียไปกลับคืนมาไม่ได้
●เมื่อเราเข้าไปอยู่ในห้องผ่าตัด เราจะตระหนักได้ว่า เราใส่ใจสุขภาพของตัวเองน้อยเกินไป
แต่เรามักจะรู้ตัวเมื่อสายเกินไปเสมอ
●จงให้ความรักกับครอบครัว กับคนรัก และเพื่อนๆ หมั่นดูแลสุขภาพของตัวเองและใส่ใจคนรอบข้างให้มากๆ
●สิ่งที่พิสูจน์แล้ว เงิน เวลา สุขภาพ
●สุขภาพคือสิ่งสำคัญที่สุด
●เวลา และเงิน คือสิ่งสำคัญรองลงมา
คำบอกสุดท้าย จาก สตีฟ จ๊อบ
Steve Jobs’ Last Words
I reached the pinnacle of success in the business world. In others’ eyes, my life is an epitome of success.
(ผมประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านธุรกิจ หลายคนอาจกล่าวว่าชีวิตผมเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของความสำเร็จ)
However, aside from work, I have little joy. In the end, wealth is only a fact of life that I am accustomed to.
(อย่างไรก็ตามแต่ นอกจากการทำงานแล้ว ผมไม่ได้มีความสุขเท่าไรนัก เพราะในที่สุดสิ่งเดียว สุดท้ายที่ผมมีคือเจ้าความร่ำรวยนี่เท่านั้น)
At this moment, lying on the sick bed and recalling my whole life, I realize that all the recognition and wealth that I took so much pride in, have paled and become meaningless in the face of impending death.(ในขณะที่ผมกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียงนี้ ผม พยามยามย้อนรำลึกถึงชีวิตของผมที่ผ่านมา ผมพบว่าความร่ำรวยที่ผมเคยภูมิใจ กลับไม่มีค่าอะ ไรเลยในช่วงสุดท้ายที่ผมกำลังจะตาย)
In the darkness, I look at the green lights from the life supporting machines and hear the humming mechanical sounds, I can feel the breath of god of death drawing closer…
(ในความมืด ผมมองเห็น เพียงแสงสีเขียวและได้ยินเสียงของเครื่องช่วยหาย ใจ ซึ่งทำให้ผมรู้ว่าเป็น เสียงลมหายใจของพญา มัจจุราช ที่ก้าวย่างใกล้ เข้ามาแล้ว)
Now I know, when we have accumulated sufficient wealth to last our lifetime, we should pursue other matters that are unrelated to wealth…
Should be something that is more important:
Perhaps relationships, perhaps art, perhaps a dream from younger days
(ตอนนี้ผมเพิ่งตระหนักว่า เมื่อเราร่ำรวยพอแล้ว เราควรหันไปใส่ใจกับเรื่องอื่นๆ บ้าง ซึ่งอาจเป็นสิ่ง อื่นๆที่สำคัญ เช่น งานศิลป ที่เราเคยใฝ่ฝันในตอนเด็กๆ)
Non-stop pursuing of wealth will only turn a person into a twistedbeing, just like me.
(การไม่ยอมหยุดสร้างความร่ำรวย จะทำให้ต้องมี ชีวิตเหมือนที่ผมเป็น)
God gave us the senses to let us feel the love in everyone’s heart, not the illusions brought about by wealth.
(พระเจ้าได้มอบความรักไว้ในหัวใจของมนุษย์ทุกคน ซึ่งไม่สามารถซื้อหาได้ด้วยเงิน)
The wealth I have won in my life I cannot bring with me. What I can bring is only the memories precipitated by love.
That’s the true riches which will follow you, accompany you, giving you strength and light to go on.
(เมื่อผมตาย ..ผมก็คงเอา ความร่ำรวยไปด้วยไม่ได้ สิ่งที่ผมจะนำติดตัวไปคือ ความทรงจำที่ดีงามเกี่ยวกับความรักเท่านั้น ซึ่งนี่แหละที่เป็นความร่ำรวยที่แท้จริงและจะเป็นแสงนำทางให้กับเราต่อไป)
Love can travel a thousand miles. Life has no limit. Go where you want to go. Reach the height you want to reach. It is all in your heart and in your hands.
(ความรักจะติดตามเราไปได้ทุกที่ ไม่จำกัดระยะทาง หรือ ความสูง เพราะมันอยู่ในหัวใจและในสองมือของเราเอง)
What is the most expensive bed in the world? Sick bed…
You can employ someone to drive the car for you, make money for you but you cannot have someone to bear the sickness for you.
(เตียงอะไรหนอที่แพงที่สุดในโลก?...ก็คือเตียงผู้ป่วย
คุณสามารถจ้างคนมาขับรถให้ มาทำงานหาเงินให้ แต่ไม่มีใครมาป่วยแทนคุณได้)
Material things lost can be found. But there is one thing that can never be found when it is lost – Life.
(สิ่งของใดๆ ที่สูญหายไป เราอาจหาพบและได้รับกลับคืนมาได้ แต่เราไม่มีทางเอาชีวิตที่สูญเสียไปกลับคืนมา่ได้)
When a person goes into the operating room, he will realize that there is one book that he has yet to finish reading – Book of Healthy Life.
(เมื่อมนุษย์เราต้องเข้าไป รักษาตัวอยู่ในห้องผ่าตัด เราจะตระหนักได้ว่าเราใส่ใจสุขภาพของตัวเองน้อยเกินไป แต่....เรามักจะรู้ตัว เมื่อสายเกินไปเสมอ)
Whichever stage in life we are at right now, with time, we will face the day when the curtain comes down.
(ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงเวลาไหนของเวทีชีวิตของคุณก็ตาม เราทุกคนต้องรู้ว่่า ในที่สุดม่านเวทีของชีวิตเราก็ต้องปิดฉากลงทุกคน)
Treasure Love for your family, love for your spouse, love for your friends.
Treat yourself well. Cherish others.
(จงให้ความรักกับครอบครัว กับคนรัก และเพื่อนๆ หมั่นดูแลสุขภาพของตัวเอง และใส่ใจคนรอบข้างให้ มากๆ)